อย่างที่เรา ๆ (คนทำ SEO ทั้งหลาย) รู้กันมาระยะนึงแล้วนะครับว่าแพนด้านั้น เป็น Algorithm ที่ทำให้วิธีการต่าง ๆ การการปรับแต่งเว็บไซต์ทำได้ยากมากขึ้น ซึ่งจริง ๆ แล้วถ้าพูดให้ถูกก็คือ seo สายปั่นมีผลกระทบอย่างรุนแรงน่าจะถูกกว่า เพราะหากใครเดินบนเส้นทางสีขาวแล้วล่ะก็ แทบไม่มีผลกระทบด้านลบเลยก็ว่าได้ (มีแต่ด้านบวกด้วยซ้ำ บางทีคนที่เดินเส้นทางนี้แทบอยากจะกระโดดกอดแพนด้าเลยทีเดียว)

หลาย ๆ คนยังคงไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้ว แพนด้านั้นคืออะไร แล้วมันแจ้งเกิดขึ้นมาได้ยังไง เพราะฉะนั้นก็ขออธิบายคร่าว ๆ ในส่วนตรงนี้ซักหน่อย โดยเป็นคำอธิบายของผมเอง + อ้างอิงจาก Video ของ Rand Fishkin แล้วกัน เพราะดูแล้วไม่อธิบายยาก ๆ ให้คนไม่ชอบคิดลึก ๆ งงมากไปกว่าเดิม … เจ้าแพนด้านี้ที่จริงแล้ว มันเกิดมาในตอนแรกน่าจะประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2011 ด้วยชื่อว่า content farmer update เอาไว้เล่นงานบุคคลที่พยายามทำ seo โดยการสร้างกองกำลัง content จำนวนมาก แต่เมื่อ algorithm นี้เริ่มได้ผลชัดเจนและมีประสิทธิภาพ ผมถึงมาได้ยินคำว่า Panda ที่หลัง (กลาง ๆ เดือนมีนาคม) ซึ่งคำว่า panda นี้ ก็คือชื่อของพนักงาน Google ที่เป็นคนคิดค้น Algorithm นี้นั่นเอง

Panda Update จริง ๆ แล้วก็คือการอัพเดท Algorithm ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่อง machine learning (บางคนเรียกว่า data mining) ซึ่งก็คือการให้เครื่องคอมพิวเตอร์ วิเคราะห์หาปัจจัยที่ส่งผลให้เว็บนั้นมีคุณภาพหรือไม่มีคุณภาพ … คุณผู้อ่านอาจจะสงสัยว่าแล้วคอมพิวเตอร์จะรู้ได้ยังไง ก็คือว่าในส่วนของตัวอย่างข้อมูลส่วนนึงถูกนำออกมาทดลองก่อน แล้วอาจจะให้คนที่ให้คะแนน บอกว่าเว็บเพจในกลุ่มทดลองแต่ละอันมีประสิทธิภาพหรือไม่ แล้วพอคอมพิวเตอร์นำไปประมวลผลก็จะได้ factor หลัก ๆ ออกมาว่าปัจจัยใดบ้างที่บ่งบอกว่าดี และปัจจัยอะไรบ้างที่บ่งบอกว่าห่วย พอจัดการกับข้อมูลกลุ่มทดลองเรียบร้อยแล้วก็เอาเจ้าแพนด้ามาใช้จริง ซึ่งก็นั่งตบเรา ๆ อยู่ทุกวันนี้

วิธีการโต้กลับเจ้า panda อัพเดทนี้ จริง ๆ แล้วใครเล่นเว็บบอร์ด seo ก็คงจะพอทราบกันดีอยู่แล้ว แต่หากใครยังไม่รู้ Rand Fishkin ก็แนะนำไว้ให้ 3 อย่างหลัก ๆ ตามนี้

1. Design + User Experience การออกแบบหน้าเว็บและเข้าใจถึงการตอบสนองกับการใช้งานของ user … การออกแบบก็ดูว่าแบบไหนจะดึงดูดผู้ใช้มากกว่า และจะจัดการเมนู กับ layout ยังไง ไม่ใช่ว่าทำเว็บแบบยุคเก่า ๆ ดูแล้วไม่น่าอ่านเท่าไร

2. Content Quality นั่นไงบทความคุณภาพมาหลอกหลอนกันอีกตามเคย แต่เราทุกคนคงต้องยอมรับความจริงว่ามันสำคัญมาก ๆ บทความที่ไม่เหมือนใคร อ่านง่าย และมีประโยชน์มีความสำคัญมาก ๆ และในปัจจุบันก็ยิง่สำคัญขึ้นไปอีก …แต่กระนั้นแล้ว Rand ยังแนะนำมาอีกว่า แค่นั้นไม่พอ หากคุณทำได้ ต้องทำให้คนอ่าน ๆ แล้ว ร้องว้าววว ขอแชร์เพื่อน ๆ หน่อยเหอะเลยทีเดียว หากทำได้แบบนั้นรับรองว่าอันดับพุ่งแน่นอน แต่บอกตามตรงตัวผมเองก็ไม่ไหวเหมือนกันครับ ถ้าจะให้ไปถึงขั้นนั้น แต่คงต้องค่อย ๆ พัฒนากันไปแหละ อิอิ

3.Usage Metrics อันนี้หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้แต่ผมเห็นว่ามันสำคัญมานานแล้วนะ การติดตามผลว่า User เข้ามาทำอะไรในเว็บเราบ้าง เข้ามาแล้วออกเลยหรือเปล่า ใช้เวลานานแค่ไหน CTR จาก Google organic search เป็นยังไง และมีความกระจายของ user จากหลาย ๆ ที่หรือเปล่า (หรือว่ามีคนเข้ามาจากกลุ่ม ๆ เดียวกันตลอด)

Rand ยังบอกอีกว่า SEO จริง ๆ แล้วกำลังจะกลายเป็นตำแหน่ง Web Strategy แทนแล้ว ผมก็ว่าจริงเพราะมองกันในระยะยาว ๆ แล้วละก็ มันต้องการความรู้ครบทุกด้านเลย ตั้งแต่ความเข้าใจในด้าน Web Content Architecture, Web Programming, Web Marketing, PR Strategy, Web Analytics (อาจจะมีอย่างอื่นอีกนะ แต่ไม่จำเป็นต้องเทพนะครับ ผมว่าให้มีพื้นฐานมีความเข้าใจ เพื่อว่าจะคิดตัดสินใจแก้ปัญหาได้รวดเร็ว เพราะรู้ว่าทำอะไรแล้วจะส่งผลกระทบด้านไหนบ้าง)

หวังว่าบทความจะพอช่วยเป็นประโยชน์คุณผู้อ่านได้บ้าง ถึงแม้ว่า Panda จะเข้ามาในชีวิตเราสักระยะนึงแล้วก็เหอะ ^^

Leave a Reply

*


*